วันอาทิตย์, กรกฎาคม 29, 2550

 

วิธีสังเกตอาการเบื้องต้นของมะเร็งชนิดต่างๆ

อาการของการเกิดมะเร็งในอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย

1. มะเร็งปากมดลูก อาการ มีเลือดออกจากช่องคลอดทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เวลารอบเดือนปกติของคุณอาการเจ็บปวดและมีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์ หากพบว่ามีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น การตรวจโดยขูด นื้อเยื่อจากบริเวณดังกล่าวไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์จะรู้ได้

2. มะเร็งในมดลูก อาการ มีเลือดออกหลังการมีเพศสัมพันธ์ หรือบางครั้งอาจมีความรู้สึกว่ามีก้อนเนื้อหรือมีอาการบวมในช่องท้อ

3. มะเร็งรังไข่ อาการ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออนหรือการมีอาการเจ็บปวดหลังการมีเพศสัมพันธ์>มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้อาการท้องอืดอาหารไม่ย่อย น้ำหนักลดและมีอาการปวดหล

4. มะเร็งในเม็ดเลือด (ลูคีเมีย) อาการเหนื่อยง่ายและมีอาการซีดเซียวกว่าปกติมักเกิดอาการฟกช้ำดำเขียว หรือมีเลือดออกทางผิวหนังได้ง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุและมักจะเกิดร่วมกับอาหารปวดตามข้อต่าง ๆ ทั่วร่างกายบางครั้งจะท้องอืดและเมื่อคลำดูจะพบว่ามีก้อนบวมที่ด้านซ้ายของช่องท้อง

5. มะเร็งปอด อาการ มักมีอาการไอบ่อย ๆ มีเลือดออกและมีเสมหะปนมากับน้ำลายน้ำหนักลดอย่างฮวบฮาบ เจ็บ หน้าอกและหายใจลำบากหรืออาจมีอาการหอบปนอยู่ด้วยทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

6. มะเร็งตับ อาการ ปวดในช่องท้อง เบื่ออาหาร น้ำหนักลดตาและผิวเป็นสีออกเหลืองและเหลืองจัดจนเห็นได้ชัด

7. มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ อาการ มีเลือดปนออกมากับปัสสาวะ

8. มะเร็งสมอง อาการ ปวดศีรษะนาน ๆ และมักมีอาการอื่นร่วมด้วยเช่นอาเจียนหรือการผิดปกติของการมองเห็น ตาพร่า และเห็นแสงเขียว ๆ แดง ๆ ลอยไปมาเวลาปวดศีรษะ อ่อนเพลียไม่มีแรง หรือ การเป็นลมโดยกะทันหันอวัยวะบางส่วนของร่างกายหยุดทำงานเช่นมีอาการชาและเป็นอัมพาตชั่วคราวควรให้ความระวังเป็นพิเศษหากคุณเคยมีประวัติการปวดหัวที่มีอาการเหล่านี้ประกอบอยู่ด้วย

9. มะเร็งในช่องปาก อาการ มีก้อนบวมอยู่ในปาก หรือทีลิ้นเป็นเวลานานมีแผลเปื่อยที่ปากที่ไม่ได้รับการรักษา หรือเป็นแผลเรื้อรังที่เหงือกเนื่องจากการกดทับของฟันปลอมที่ใส่ไว้ประจำหรือเป็นเวลานาน

10. มะเร็งในลำคอ อาการ เสียงแหบพร่าไปทันที มีก้อนบวมในทันทีทำให้รู้สึกว่ากลืนอาหารได้ลำบาก หรือมีการขยายตัวของต่อมในลำคอที่โตขึ้นจนสามารถจับและรู้สึกได้

11. มะเร็งในกระเพาะอาหาร อาการน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วอาเจียนออกมาเป็นเลือดท้องอืดหรืออาหารไม่ย่อยบ่อย รู้สึกเหมือนมีก้อนเนื้องอกในช่องท้องหรือรู้สึกตื้อ แม้เพิ่งจะรับประทานอาหารไปได้ไม่กี่คำ

12. มะเร็งทรวงอก อาการมีเลือดหรือของเหลวบางอย่างไหลออกมาจากหัวนมบวมหรือผิวเนื้อทรวงอกหนาขึ้นมีก้อนบวมจนจับได้เมื่อคลำบริเวณใต้รักแร้บางครั้งอาจมีตุ่มหรือสิวเกิดขึ้นที่เต้านมเป็นเวลานานควรระวังเพราะผู้หญิง 9 ใน 10 คนจะมีอาการบวมของก้อนเนื้อบริเวณทรวงอกโดยไม่ทราบสาเหตุเมื่อมีอายุมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนทำให้เกิดเป็นถุงน้ำใต้ผิวหนังที่เรียกว่าซีสต์ซึ่งควรต้องค้นหาสาเหตุของอาการบวมนั้นให้ชัดเจนเสียก่อนว่าคืออะไรกันแน่

13. มะเร็งลำไส้ อาการ น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วมีอาการปวดท้องอย่างมากและระบบการย่อยผิดปกติ มีเลือดออกปนมากับอุจจาระ

****ซึ่งมีวิธีสังเกตของผู้ที่มีอาการเกี่ยวกับริดสีดวงทวารอยู่แล้วคือถ้าใช้กระดาษทิชชูซับแล้วเลือดมีสีแดงสดนั่นคืออาการของริดสีดวงทวารแต่ถ้าเลือดมีสีดำคล้ำนั่นคือ อาการของโรคมะเร็งในลำไส้

14. มะเร็งต่อมน้ำเหลือง อาการมีก้อนบวมเกิดขึ้นที่ใต้รักแร้หรือใต้ขาหนีบโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่ได้เกิดอาการติดเชื้อในบาง ส่วนของร่างกายมะเร็งผิวหนัง อาการมีแผลหรือแผลเปื่อยพุพองที่ไม่ได้รับการรักษาอยู่เป็นเวลานานตลอดจนไฝหรือหูดที่โตขึ้นและมีการเปลี่ยนสีหรือรูปร่าง ขนาด นอกจากนี้อาการอันตรายอีกอย่างหนึ่งที่ เรียกว่าเมลาโนมา (Melanoma)คือเนื้องอกที่ประกอบด้วยเซลล์ที่มีเมลานินสะสมอยู่ เช่น กระจุดด่างหรือไฝถ้าคุณมีไฝมากกว่า 50 เม็ดทั่วร่างกายหรือมีคนในครอบครัวที่มีประวัติว่าเคยเป็นโรคนี้มาก่อนคุณจะมีอัตราเสี่ยงสูงกว่าคนอื่นๆ ส่วนอันนี้เค้าฟอเวิร์ดติดมาด้วย –

ถึงท่านผู้โชคดี ขอให้ท่านนำเรื่องนี้ไปบอกต่อเป็นวิทยาทาน ท่านจะโชคดีมีความสุขตลอดกาล ตำรานี้ใช้แก้โรคมะเร็งผู้เป็นมะเร็งจะหายโดยไม่คาดคิดสำหรับมะเร็งจะหายภายใน 6 วัน


วิธีรักษา - ไปที่ร้านยาจีน ซื้อหัวเตย 1 ตำลึง หัวขิง 1 ตำลึงก้อนเกลือ 3 ก้อน นำมารวมกันแล้วแช่น้ำทิ้งไว้ 1 วัน ในน้ำ 1 ชาม ให้ดื่มจนหมดชาม


สรรพคุณในการรักษา - หลังจากดื่มยานี้แล้ว ควรดื่มน้ำตามมาก ๆ นำส่วนที่เหลือมารับประทาน

ยานี้จะขับเอาของเสียออกทางอุจจาระหรือปัสสาวะไม่ต้องตกใจ เป็นการขับของเสียออกหมดแล้วจะปกติ

วันเสาร์, กรกฎาคม 14, 2550

 

ลองขึ้นแท็กซี่เก่าบ้างนะ

เรื่องนี้เป็นเพราะความบังเอิญที่บ่ายวันนั้นฝนตกตัวเองก็รีบจะไปเจอเพื่อนที่รอ อยู่บีทีเอสหมอชิต>>> >ตัดสินใจรีบวิ่งขึ้นแท็กซี่ที่จอดเรียง กันอยู่โดยไม่มองว่ารถคันนั้นมีสภาพยังไง>>> >เข้ามานั่งแล้ว ถึงได้รู้ว่าเป็นรถแท็กซี่รุ่นเก่า คันเล็ก >>>แอร์ไม่ เย็น>>> >แล้วก็จะมืดๆหน่อยอ่ะค่ะคือมองจากข้างนอกจะเห็นข้างใน ไม่ค่อยชัดตอนนั้นก็คิดแค่ว่า>>> >เออ แค่นี้เอง เดี๋ยวก็ถึง ร้อนหน่อยไม่เป็นไร>>> >นั่งไปได้สักพักรถติดคุณลุงคนขับรถก็ หันมาถามประมาณว่า>>> >'มีแบงค์ย่อยรึเปล่า ลุงไม่มีเงิน ทอน>>>นี่เป็นรอบแรกของวันนี้เลย'>>> >เราเห็นว่า ตอนนั้นมันจะสี่โมงเย็นแล้วแต่ลุงบอกว่าเป็นเที่ยวแรกของ วันนี้>>> >ก็เลยถามว่า 'ลุงเข้ากะบ่ายหรือ คะ'>>> >คุณลุงตอบกลับว่า>>> >'ลุงขับมา ตั้งแต่ตีสี่แล้วนี่รถของลุงเองนไปวนมาอยู่หลายรอบแล้วแต่ไม่มีลูกค้า เลย'>>> >'อ้าวทำไมล่ะคะลุง'>>> >ตอนนั้นก็ชวน คุณลุงคุยแบบไม่ได้ติดใจอะไรถามไปเรื่อย>>> >'รถลุงเก่าคนเค้า ก็ไม่อยากนั่ง>>> >แต่ลุงเข้าใจนะมันก็เป็นเงินของเค้ารถเก่ารถ ใหม่ค่าโดยสารมันเท่ากัน>>> >เป็นลุงลุงก็อยากได้ที่มันดีๆ เหมือนกันเด็กๆเดี๋ยวนี้เค้าก็ชอบรถที่มีสี>>> >ๆ กัน'>>> >น้ำเสียงคุณลุงตอนนั้นเป็นน้ำเสียงเหมือนจะ ขำๆ>>> >แบบเล่าสู่กันฟังมากกว่าจะประชดประชันนะ คะ>>> >แล้วลุงก็เปลี่ยนเรื่อง ถามว่า 'รถไฟฟ้านี่เค้าคิดเงิน กันยังไง'>>> >ก็เลยอธิบายเรื่องราคาให้ลุงฟัง แล้วลุงก็ถามว่า ทำยังไง>>> >ถ้าทำไม่เป็นจะมีใครช่วยไหม>>> >' ลูกชายลุงมันอยากจะลองนั่งแต่ลุงก็ทำไม่เป็น>>> >ไม่เคยเห็นว่า เป็นยังไง ไม่กี่วันจะถึงวันเกิดมันแล้ว>>>>>> > ลุงสัญญาว่าจะพามันมานั่งดูสักรอบคงจะชอบนะ>>> >หนู ลุงเคยพา มันมาดูแต่วันนั้นไม่มีเงินจะให้นั่ง สมัยนั้น>>> >บีทีเอส สร้างเสร็จและเปิดใช้งานแล้วเกือบสามปี'>>> >น้ำเสียงตอนคุณลุง เล่า>>> >ฟังดูมีความสุขนะคะคุณลุงยิ้มให้เราทางกระจกคำพูดของ คุณลุง>>> >ทำให้เราตื้อขึ้นมา>>> >ไม่รู้ว่า จะตอบยังไงดีได้แต่พยักหน้าแล้วก็ยิ้มตอบทั้งสองเรื่องที่ลุงพูดมาเรื่องรถแทก ซี่เก่าของลุงเราฟังแล้วก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆให้ลุงไป>>> >เพราะ เราเองก็รู้ตัวดีอยู่ว่าเป็นหนึ่งใน'เด็กๆเดี๋ยวนี้ที่มักจะเลี่ยงนั่งรถ เก่าๆ>>> >และมักจะยอมเสียเวลาเป็นครึ่งชั่วโมงเพื่อรอรถ แท็กซี่ใหม่ ๆผ่านมา'>>> >เรารู้ดีว่าแม้แต่การนั่งรถของคุณลุง ในครั้งนี้มันก็เป็นแค่ความบังเอิญ>>> >ถ้าฝนไม่ ตก>>>ถ้าเราไม่รีบเราก็คงไม่เรียกรถของคุณลุง>>> >หลังจากนั้นเราก็คิดว่ามันอาจจะเป็นเรื่องของสิทธิส่วนบุคคลที่เราสามารถ เลือกในสิ่งที่เราต้องการได้>>> >แต่ถ้าสิ่งที่เราเลือกทำมันมี ประโยชน์กับคนอื่นด้วยเราก็ไม่คิดว่ามันจะเสียหายอะไร>>> >( แท็กซี่ใหม่ก็ไม่ผิดหรอกค่ะเพราะในจำนวนนั้นก็มีคนที่ลำบากหาเช้ากินค่ำเช่น กัน)>>> >ส่วนเรื่องรถไฟฟ้า เรื่องของลูกชายคุณลุงทำให้เรากลับ มามองตัวเอง>>> >เราใช้รถไฟฟ้าไปไหนมาไหนตลอดบางครั้งไม่มีอะไร ทำก็ชอบไปนั่งเล่นด้วยซ้ำ>>> >จะใช้ทีก็แทบจะไม่ต้องคิดเลยแต่ สำหรับลูกชายคุณลุง>>> >มันคือ'ของขวัญวันเกิด' เป็นความต้อง การที่แทบจะต้องใช้คำว่า >>>'ความฝัน'>>> >ด้วย ซ้ำ ....>>> >'เงิน 'แค่'สิบห้าบาทของเรา กับเงิน 'ตั้ง'สิบห้า บาทของเค้า'>>> >หดหู่ค่ะ>>> >วันนั้นลงจากรถ คุณลุงมาก็เล่าให้เพื่อนฟังคิดถึงตัวเองที่ใช้เงินฟุ่มเฟือยทั้งที่หาเงินเองไม่ ได้>>> >คิดถึงหลายๆอย่างในชีวิต ที่ได้มาง่ายๆโดยไม่ต้อง ดิ้นรน
ที่ มา:>>>http://webboard.mthai.com/5/2007-05-04/319571.html

 

7 สิ่งที่ไม่ควรทำหลังการทานอาหาร


1. อย่าสูบบุหรี่ !!จากผลการทดลองของผู้เชี่ยวชาญพบว่าการสูบบุหรี่หลังอาหาร เทียบได้กับการสูบบุหรี่ยามปกติถึง 10 มวน(ทำให้มีโอกาสเป็นมะเร็งมากขึ้น ซึ่งสูบปกติก็มีโอกาสเป็นอยู่แล้ว)
2. อย่ากินผลไม้ทันทีหลังอาหาร !!เพราะมันไปพองในท้องคุณให้กินผลไม้ 1 หรือ 2 ชม. ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้จะดีกว่า
3. อย่าดื่มน้ำชา !!เพราะว่าใบชามีความเป็นกรดสูงทำให้โปรตีนในอาหารที่เรากินกระด้างขึ้นทำให้ย่อยยาก
4. อย่าขยายเข็มขัดหลังกินอิ่ม !!เพราะเป็นเหตุให้ลำไส้ไม่ปกติ
5. อย่าอาบน้ำหลังกินข้าว !!เพราะการอาบน้ำ จะทำให้โลหิตไหลเวียนไปที่มือ และเท้าทั่วร่างกายเป็นเหตุ
ให้ปริมาณโลหิตไหลเวียนบริเวณท้องก็เพิ่มขึ้นซึ่งส่งผลให้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้ไม่เต็มที่
6. อย่าเดินหลังอาหาร !!แม้คุณจะเคยได้ยินว่ากินข้าวแล้วให้เดินสัก 100 ก้าวจะทำให้อายุยืนถึง 99 ปี !?!การเดินทันทีทำให้การย่อยเพื่อดูดซึมสารอาหารทำได้ไม่ดีควรรออย่างน้อยสักชั่วโมงค่อยเดินถ้าต้องการ
7. อย่านอนทันที !!อาหารที่รับประทานเข้าไปไม่สามารถย่อยได้เต็มที่อาจทำให้เกิดลมหรือแก๊สในทางเดินอาหาร...มาถึงบรรทัดนี้ก็อย่าเก็บเมล์นี้ไว้คนเดียว ส่งต่อให้เพื่อนๆเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหลังกินอิ่มกันเด้อ !!...หากคุณเป็นคนที่ใส่ใจในสุขภาพ และรูปร่างความงาม ความหล่อ คลิ้กที่นี่เลยขอต้อนรับสู่คลับของเรา

This page is powered by Blogger. Isn't yours?